Share

บทที่ 6 จิ่วฉงเทียน   

"เฮอะ" เสิ่นเทียนเม่ยหัวเราะเคืองๆ "เช่นนั้นชั้นก็อยากจะเห็นเสียจริง ไม่ต้องเอาไกลหรอก เอาแค่งานเลี้ยงของคุณชายโจวคืนนี้ นายรู้ไหมว่าอยู่ที่ไหน?"

"ตึกที่สามแห่งจิ่วฉงเทียน! สถานที่ที่คนไม่ได้เรื่องอย่างนายทั้งชีวิตนี้ก็ไปไม่ได้!"

หลิ่วฮุ่ยฟางฟังแล้วตาเปล่งประกาย "ชั้นสามจิ่วฉงเทียน? นั่นอย่างน้อยต้องเป็นสมาชิกระดับโกลด์ถึงจะจองได้เลยนะ!"

ที่เมืองหลัน จิ่วฉงเทียนเป็นร้านอาหารอับดับต้นแนวหน้าเลยทีเดียว สมาชิกระดับโกลด์ต้องมีการใช้จ่ายระดับสิบล้านขึ้นไปจึงจะสมัครสมาชิกได้ ในตระกูลฉิน มีแค่ผู้เฒ่าฉินเท่านั้นที่มีบัตรสมาชิกระดับโกลด์

ส่วนที่สูงกว่าชั้นสาม การใช้จ่ายของสมาชิกก็ยิ่งตกตะลึงเกินจริงขึ้นไปอีก!

เสิ่นเทียนเม่ยหันหน้าเหลือบมองหลี่เฟิงผาดหนึ่ง หัวเราะเอ่ยขึ้น "หลี่เฟิง นี่คือความแตกต่างของคุณชายโจวกับนาย ไม่รู้จริงๆ ว่านายเอาความมั่นใจมาจากไหนถึงมายืนอยู่ข้างกายฉินชิง"

"เสี่ยวเฉินอย่าไปสนใจคนไม่ได้เรื่องนี่เลย เสี่ยวชิงลงมาแล้ว พวกเรารีบเดินทางดีกว่า อย่าให้คุณชายโจวต้องรอนาน!"

หลิ่วฮุ่ยฟางไม่แม้แต่จะเหลือบมองหลี่เฟิง

แลนด์โรเวอร์ขับออกไปอย่างวางก้าม ตอนนี้เองโทรศัพท์มือถือของหลี่เฟิงก็ดังขึ้น

"พี่ใหญ่ เสิ่นซานจัดงานเลี้ยงขอขมาที่ห้องอิมพีเรียลชั้นเก้าของจิ่วฉงเทียน พี่จะไปร่วมงานไหม..."

"ให้เขาส่งรถมารับชั้นที"

……

ประตูใหญ่จิ่วฉงเทียน

แลนด์โรเวอร์เพิ่งจอด โจวไท่ที่รออยู่ที่ประตูนานแล้วก็รีบตรงเข้ามารับ

เขาอยู่ในชุดสูทสีขาวหรูหรา ในมือมีดอกกุหลาบสีแดงสดอยู่ช่อหนึ่ง หลังจากช่วยฉินชิงเปิดประตู ก็ยิ้มเอ่ยขึ้นว่า "ฉินชิง วันนี้เธอสวยมาก"

ฉินชิงฝืนทำตัวกระปรี้กระเปร่ายิ้มขึ้นมา

เสิ่นเทียนเม่ยจิ้มเอวของฉินชิง บ่นขึ้นมา "คุณชายโจวพูดกับเธออยู่นะ เป็นใบ้หรอ?"

"ไม่ใช่..." ฉินชิงเอียงตัวเอ่ยเสียงต่ำ "ฉันก็แค่กังวลว่าหลี่เฟิงคืนนี้จะยังไม่ได้กินข้าว..."

"เธอยังจะกังวลตาบ้านั่นอีก เธอนี่มันเจ็บแล้วไม่จำเสียที"

เสิ่นเทียนเม่ยเตือนขึ้นอย่างหวังดี

อ๊า!

ไม่รู้ว่าใครกรีดร้องขึ้นมา

ไม่ห่างไปนัก ลีมูซีนลินคอร์นเสตรทสีขาวบริสุทธิ์คันหนึ่ง

ป้ายทะเบียนเก้าห้าตัวที่แสนสะดุดตา

สายตาโจวไท่ถูกดึงดูดไป เอ่ยขึ้นยอ่างตกตะลึงว่า "นี่ไม่ใช่รถของคุณชายสามหรือ? เขาเองก็มากินข้าวที่จิ่วฉงเทียนด้วยหรือ?"

คุณชายสาม? นั่นมันเจ้าพ่อที่ปิดแผ่นฟ้าได้ด้วยมือเดียวของเมืองหลันเลยนะ!

สามีภรรยาหลิ่วฮุ่ยฟางเองก็มองออกไป

ตอนนี้เอง ประตูรถลินคอร์นก็เปิดออก และเห็นชายหนุ่มคนหนึ่งลงมาจากรถ รีบเดินตามพนักงานตรงไปยังลิฟท์

ฉินชิงมองแผ่นหลังนั้นอย่างตกตะลึง งึมงำขึ้นว่า "คนคนนี้ ทำไมถึงดูคล้ายหลี่เฟิงจัง?"

"หลี่เฟิง?"

เสิ่นเทียนเม่ยตกตะลึง พูดติดตลกขึ้นมาทันทีว่า "เสี่ยวชิง เธอคงมองผิดแล้วล่ะ ตาคนไม่ได้เรื่องนั่นชาติหน้าก็ยังไม่มีโอกาสได้นั่งลินคอร์นเสตรทมาที่จิ่วฉงเทียนหรอก"

พอได้ยิน ฉินชิงเองก็พยักหน้า

เธอน่าจะมองผิดจริงๆ

คนทั้งกลุ่มตามโจวฉินมาถึงห้องเฟิ่งเยวี่ยที่ชั้นสาม

"ว้าว ขนาดชั้นสามก็ยังหรูหราขนาดนี้!"

"ไม่รู้จริงๆ ว่าห้องอิมพีเรียลชั้นเก้าในตำนานนั่นจะหรูหราสักแค่ไหน วังจักรพรรดิคงจะงั้นๆ ไปเลยมั๊ง!"

หลิ่วฮุ่ยฟางถูกการตกแต่งอันหรูหราดึงดูดไปแล้ว คอยลูบนั่นลูบนี่อยู่ตลอด

โจวไท่พอใจกับปฏิกิริยาของพวกหลิ่วฮุ่ยฟางมาก เอ่ยทักทายขึ้นว่า "คุณลุงคุณป้า พวกเรามาสั่งอาหารกันก่อนเถอะ"

"ใช่ใช่ใช่ สั่งอาหาร"

ทุกคนนั่งลง มองเมนูแพงหูฉี่และเริ่มสงสัยในชีวิตคนเรา

นี่มันเรียกว่ากินข้าวได้ที่ไหน นี่มันกินทองคำชัดๆ

โจวไท่กลับดูสงบไม่สะทกสะท้าน พอสั่งอาหารเสร็จ ก็เพิ่มโฮรมาเน่กงติปีที่ดีที่สุดมาอีกสองขวด

เสิ่นเทียนเม่ยคนที่เข้าใจก็เอ่ยชมขึ้นว่า "คุณชายโจว วันนี้คุณจะถังแตกเอานา โฮรมาเน่กงติปีที่ดีที่สุดสองขวดนี่มันสามสี่หมื่นเลยนะ"

โจวไท่ยิ้มเอ่ยขึ้นว่า "ก็แค่เงินไม่กี่หมื่น ไม่เท่าไรหรอก วันนี้เป็นวันที่เชิญคุณลุงคุณป้ามากินข้าวนะ เช่นนี้ถึงจะแสดงน้ำใจของผมได้"

ชั่วขณะหนึ่ง หลิ่วฮุ่ยฟางถูกอำนาจอันโอ่อ่าของโจวไท่กล่อมไปเสียแล้ว สมแล้วที่เป็นคุณชายโจว สะบัดเจ้าขยะหลี่เฟิงนั่นทิ้งแบบไม่เห็นฝุ่น

ด้านนอกห้องเหมา หลี่เฟิงกำลังเดินผ่านระเบียง

ตอนที่ผ่านหัวมุม บริกรหญิงคนหนึ่งที่ถือขวดเหล้ามาสองขวดเกิดเท้าเคล็ดขึ้นมาจนเกือบล้ม โชคดีที่หลี่เฟิงเห็นจนประคองเธอไว้ได้ทันท่วงที

"ไม่เป็นไรใช่ไหม?"

"ไม่เป็นไรไม่เป็นไรค่ะ..."บริกรหญิงตกใจมาก เหล้าสองขวดนี้ถ้าแตกไปล่ะก็ เงินเดือนของปีนี้ก็คงถูกหักไปชดใช้จนหมดแน่

"เท้าของคุณเคล็ดแล้ว ให้ผมช่วยคุณเอาเหล้าไปส่งเถอะ"

บริกรหญิงทดลองบิดๆ ข้อเท้า ก็รู้สึกว่าเจ็บขึ้นมาจริงๆ ทำได้แค่พยักหน้าให้ "ขอบคุณคุณมากนะคะ..."

ในห้องเหมา

ทุกคนกำลังคุยกันถูกคอ มีแค่ฉินชิงที่ใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว

หลิ่วฮุ่ยฟางเหลือบมองฉินชิงที่อยู่ข้างๆ ก็เขยิบเข้าไปใกล้ๆ พูดเสียงต่ำว่า "แก่ไม่พูดอะไรเลยนี่มันยังไงกัน! อีกเดี๋ยวพอเหล้ามาก็ชนกับคุณชายโจวหลายๆ แก้วหน่อยนะ เข้าใจไหม!"

"แม่...หนูไม่อยากดื่มเหล้า" ฉินชิงอธิบายอย่างอ่อนแรง

"ไม่อยากดื่มก็ต้องดื่ม!"

ตอนนี้เอง ประตูห้องเหมาก็ถูกเปิดออก

"ทุกท่าน เหล้าของพวกคุณมาถึงแล้ว"

"หลี่เฟิง?!"

เสิ่นเทียนเม่ยอยู่ตรงข้ามประตูห้องเหมาพอดี ลุกขึ้นอย่างประหลาดใจ

คนทั้งหมดก็หันหน้ามาอย่างตกตะลึง

"ตามมาหลอกมาหลอนอยู่นั่นล่ะ นี่สะกดรอยตามพวกเรามาถึงนี่เลยหรือ ใครให้แกเข้ามากัน!"

หลิ่วฮุ่ยฟางโกรธจัด

พูดจบยังหน้าหน้าเหลือบมองโจวไท่ผาดหนึ่ง กลัวว่าหลี่เฟิงจะมายั่วโมโหให้อีกฝ่ายโกรธ

เสิ่นเทียนเม่ยหัวเราะเย็นชาขึ้นมา "หลี่เฟิง นายนี่ก็กล้าเสียเหลือเกิน จิ่วฉงเทียนถ้าไม่ใช่สมาชิกก็เข้ามาไม่ได้หรอกนะ นายน่าจะแอบปลอมตัวเป็นบริกรแล้วดอดเข้ามาล่ะสิ?"

หลี่เฟิงส่ายหัว "มีคนเชิญชั้นมาต่างหาก"

ฉินชิงมองหลี่เฟิงอย่างสงสัย

เสิ่นเทียนเม่ยเอ่ยขึ้นอย่างกลืนไม่เข้าคายไม่ออก "ใครจะเชิญคนบ้ามากินข้าวที่จิ่วฉงเทียนกัน หลี่เฟิง นายยังไม่หายดีจริงๆ ใช่ไหม?"

โจวไท่พิจารณาลูกเขยเป็นบ้าที่เลื่องชื่อของเมืองหลันคนนี้ ไม่เห็นเขาอยู่ในสายตาแม้แต่น้อย

และเห็นเขาโบกไม้โบกมืออย่างเหยียดๆ "เอาล่ะ แกจะเข้ามาอย่างไรพวกเราไม่สนใจหรอก แต่วางสุราในมือแกลง แล้วมาทางไหนก็ไสหัวไปทางนั้นเลย"

"เหล้าแพงขนาดนั้นถูกคนบ้าอย่างแกถือไว้ในมือ แล้วจะให้พวกเราดื่มต่อได้อย่างไรกัน"

"นั่นน่ะสิ!"

หลิ่วฮุ่ยฟางแย่งเหล้าสองขวดในมือมา พูดขึ้นด้วยสีหน้าเย็นชา "รีบๆ ออกไปได้แล้ว"

แม้จะไม่ถูกต้อนรับ หลี่เฟิงก็ยังหันไปบอกกับฉินชิงว่า "คุณภรรยา พี่ใหญ่ของพี่เป้าจัดงานเลี้ยงขอขมาให้พวกเราที่ห้องอิมพีเรียลชั้นเก้า เธอจะไปด้วยกันกับชั้นไหม?"

พอคำพูดนี้ออกมา ในห้องเหมาก็เงียบลงกระทั่งเข็มหล่นยังได้ยิน

  

Related chapter

Latest chapter

DMCA.com Protection Status